สำหรับใครที่กำลังคิดจะผลิตเสื้อผ้าขาย หรือเริ่มสร้างแบรนด์เสื้อของตัวเอง หนึ่งในคำถามสำคัญที่ต้องตัดสินใจก่อนเริ่มผลิตจริงคือ “จะเลือกใช้ผ้าชนิดไหนดี?” เพราะนอกจากเรื่องดีไซน์และสัมผัสแล้ว ต้นทุน คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาขายและกำไรในระยะยาว
ในบรรดาผ้าหลัก ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ โพลีเอสเตอร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยม แต่ต้นทุนของมันเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับผ้าอื่น เช่น คอตตอน หรือเรยอน? บทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดขึ้น
โพลีเอสเตอร์: เส้นใยสังเคราะห์ที่คุ้มราคา

ผ้าโพลีเอสเตอร์ ผลิตจากกระบวนการปิโตรเคมี แม้จะฟังดูเป็นเส้นใยสังเคราะห์ แต่ข้อดีคือ ผลิตได้ปริมาณมาก, ต้นทุนคงที่, และ ราคาถูกกว่าผ้าใยธรรมชาติในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อสั่งผลิตในระดับอุตสาหกรรม
เมื่อเทียบในตลาดทั่วไป
- ผ้าโพลีเอสเตอร์มักมีต้นทุนต่ำกว่า คอตตอน 100% ราว 20–40%
- ถ้าเป็นโพลีเอสเตอร์ผสม เช่น TC (โพลีฯ + คอตตอน) ราคาก็จะอยู่ระหว่างกลาง เหมาะกับการควบคุมงบในแบรนด์เสื้อยืด
ที่สำคัญ โพลีเอสเตอร์ยังทนต่อการซัก ไม่ยับง่าย ไม่เปื่อยง่าย ทำให้ลดต้นทุนเรื่อง “การเสียหาย” ระหว่างการผลิตหรือการใช้งานของลูกค้า
คอตตอน: ธรรมชาติ แต่ราคาสวิงง่าย

หลายคนชอบคอตตอนเพราะความนุ่ม สบาย และเป็นเส้นใยธรรมชาติที่ปลอดภัยกับผิว แต่ข้อเสียคือราคาผันผวนได้มาก เพราะขึ้นกับปัจจัยทางการเกษตร เช่น ฤดูกาล น้ำฝน หรือราคาวัตถุดิบในตลาดโลก
ในบางช่วง ราคาคอตตอนอาจสูงกว่าผ้าโพลีเอสเตอร์ ถึงสองเท่า หากคุณต้องการผลิตสินค้าแบบ Mass หรือต้องการควบคุมต้นทุนให้แม่นยำ ผ้าโพลีเอสเตอร์จะจัดการต้นทุนได้ง่ายกว่า
เรยอน: ผ้าเรียบหรู แต่ต้องระวังการจัดการ

เรยอนเป็นเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ที่ทำจากเซลลูโลสธรรมชาติ เช่น เยื่อไม้ มีลักษณะพลิ้ว เย็น ลื่นนุ่ม และดูหรู แต่ก็มีข้อเสียในแง่ การหดตัว, ยับง่าย, และ ดูแลยาก
ต้นทุนของเรยอนโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่างคอตตอนกับโพลีเอสเตอร์ หรือในบางช่วงอาจแพงกว่าทั้งคู่ ขึ้นกับคุณภาพการผลิต การเลือกใช้เรยอนจึงเหมาะกับแบรนด์ที่เน้นลุคหรู หรือแฟชั่นแนวพรีเมียมมากกว่าสินค้าแมส
ราคาโดยประมาณของผ้าแต่ละประเภท (ราคาต่อหลา)
| ประเภทผ้า | ราคาต่อหลา (บาท) | หมายเหตุเพิ่มเติม |
|---|---|---|
| Polyester 100% | 40–60 | ราคาประหยัด เหมาะกับงานจำนวนมาก |
| TC (Polyester + Cotton) | 60–75 | ทนทาน ใส่สบายมากขึ้น เหมาะกับเสื้อยืด |
| CVC (Cotton > Polyester) | 70–90 | เน้นความนุ่มและใส่สบาย แต่ยังควบคุมราคาได้ |
| Cotton 100% (Semi) | 90–120 | ใส่สบาย ระบายอากาศดี แต่ราคาสูง |
| Cotton 100% (Combed) | 110–150 | คุณภาพสูงสุด เหมาะกับแบรนด์พรีเมียม |
| Rayon / Viscose | 95–130 | พริ้ว เย็น ลื่น แต่ยับง่ายและดูแลยาก |
| Dry-Tech Polyester | 55–80 | โพลีเอสเตอร์ชนิดพิเศษ ระบายอากาศดี เหมาะกับเสื้อกีฬา |
| Sublimation-Ready Poly | 45–65 | โพลีฯ สำหรับงานพิมพ์ลายโดยเฉพาะ |
ตัวอย่างเปรียบเทียบต้นทุน (สำหรับเสื้อยืด 1 ตัว)
| วัสดุหลัก | ผ้าใช้เฉลี่ย 1.2 หลา | ต้นทุนเฉพาะผ้าโดยประมาณ |
|---|---|---|
| Polyester 100% | 1.2 × 50 = 60 บาท | ต้นทุนต่ำสุด |
| TC | 1.2 × 70 = 84 บาท | สมดุลระหว่างราคาและคุณภาพ |
| Cotton 100% (Combed) | 1.2 × 130 = 156 บาท | ระดับพรีเมียม |
หมายเหตุ:
- ราคาที่แสดงเป็นราคากลางในตลาดสำหรับ ผ้าสีพื้นไม่รวมค่าพิมพ์ลาย ปัก หรือตัดเย็บ
- สั่งผลิตจำนวนมาก (1000 หลา+) จะได้ราคาต่อหน่วยถูกลงจากนี้
- ผ้ารีไซเคิล (rPET) อาจมีต้นทุนสูงกว่าโพลีเอสเตอร์ปกติประมาณ 10–20% ขึ้นกับแหล่งผลิตและมาตรฐานที่ใช้ (เช่น GRS)
แล้วผ้าแบบไหนคุ้มค่าที่สุด?
คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณต้องการให้เสื้อผ้าของคุณเป็นแบบไหน”
- ถ้าเน้นควบคุมต้นทุน ผลิตง่าย ซักง่าย ไม่ยับ → โพลีเอสเตอร์ คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
- ถ้าเน้นภาพลักษณ์ธรรมชาติ ใส่สบาย มีความพรีเมียม → คอตตอน หรือ เรยอน ก็ยังคงเหมาะสม
- ถ้าอยากได้ความสมดุล → ใช้ ผ้าผสม (เช่น TC, CVC) ก็เป็นทางเลือกที่ดี ทั้งในแง่ราคาและคุณภาพ 1
สรุป
โพลีเอสเตอร์อาจไม่ได้ดีที่สุดในทุกด้าน แต่เมื่อพูดถึงเรื่อง ต้นทุนต่อหน่วย, ความคงทน, และ ความสามารถในการผลิตจำนวนมาก มันคือวัสดุที่ตอบโจทย์การทำเสื้อผ้าเชิงธุรกิจได้ดี โดยเฉพาะในตลาดที่เน้นราคาแข่งขันหรือการผลิตแบบ Mass Production
การเลือกผ้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การเข้าใจว่าลูกค้าของคุณต้องการอะไร และคุณต้องการให้แบรนด์ของคุณสะท้อนคุณค่าแบบไหน

