การดูแลเสื้อผ้าใยสังเคราะห์อย่างถูกวิธี
ในยุคปัจจุบัน เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแบรนด์ชั้นนำ เสื้อยูนิฟอร์มสำหรับพนักงาน เสื้อกีฬาสำหรับนักกีฬา หรือแม้กระทั่งเสื้อสำหรับงานอีเวนต์ต่างๆ สาเหตุที่ผ้าชนิดนี้ได้รับความนิยมมากขนาดนี้ก็เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าผ้าธรรมชาติในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของความคงรูปที่ยาวนาน ความทนทานต่อการใช้งาน และความสามารถในการรับลายพิمพ์ที่ให้ผลลัพธ์ที่คมชัดและสดใส
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเส้นใยสังเคราะห์จะดูแลรักษาได้ง่ายกว่าผ้าใยธรรมชาติหลายประเภท แต่การดูแลรักษาอย่างถูกต้องตามหลักวิชาก็ยังคงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น ป้องกันไม่ให้สีซีดจางเร็วเกินไป และรักษาความเรียบร้อยสวยงามของเสื้อผ้าให้คงอยู่ได้นานที่สุด
ทำความเข้าใจโครงสร้างของผ้าใยสังเคราะห์ก่อนเริ่มดูแล
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นการดูแลรักษา สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจให้ดีว่า “เส้นใยสังเคราะห์” ที่ใช้ผลิตผ้าสังเคราะห์กันอย่างแพร่หลาย เช่น โพลีเอสเตอร์ ไนลอน หรือสแปนเด็กซ์ มีโครงสร้างทางเคมีที่แตกต่างจากเส้นใยธรรมชาติอย่างฝ้ายหรือผ้าไหมอย่างสิ้นเชิง ข้อดีของเส้นใยสังเคราะห์คือมีคุณสมบัติไม่ดูดซับความชื้นมากนัก จึงทำให้แห้งเร็ว ไม่เกิดเชื้อราขึ้นง่าย และไม่เสียรูปทรงง่ายเมื่อเปียกน้ำ
แต่ในขณะเดียวกัน หากเราซักหรืออบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงเกินความจำเป็น หรือใช้สารเคมีที่รุนแรงเกินไป อาจจะทำให้ผ้าใยสังเคราะห์เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร หรือเกิดการหดตัวได้ ¹
5 วิธีการดูแลเสื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์อย่างถูกต้อง
1. เลือกซักด้วยน้ำเย็นหรืออุณหภูมิที่ไม่สูงจนเกินไป
การซักผ้าใยสังเคราะห์ด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป อาจจะส่งผลให้เส้นใยเกิดความเสียหายหรือหดตัวได้ ดังนั้นจึงควรเลือกซักด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 30-40 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาโครงสร้างของเส้นใยสังเคราะห์ให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
2. เลือกใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกที่มีสารฟอกขาวหรือสารด่างที่เข้มข้นสูง เพราะสารเหล่านี้อาจจะทำให้สีของลายพิมพ์จางหายไปเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเสื้อที่ได้รับการพิมพ์ลายด้วยเทคนิค Sublimation ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันมากในการทำเสื้อผ้าใยสังเคราะห์
3. หลีกเลี่ยงการปั่นแรงหรือการอบแห้งด้วยความร้อนจัด
เนื่องจากเส้นใยสังเคราะห์มีจุดหลอมเหลวที่ต่ำกว่าผ้าชนิดอื่น จึงควรตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในโหมดถนอมผ้า และควรหลีกเลี่ยงการอบผ้าด้วยอุณหภูมิที่สูง เพราะอาจจะทำให้เสื้อหดตัวหรือเสียทรงได้ง่าย
4. เลือกตากในที่ร่มที่มีลมผ่าน ไม่ตากกลางแดดจัด
แม้ว่าผ้าสังเคราะห์จะมีคุณสมบัติแห้งเร็ว แต่แสงแดดที่แรงจัดอาจจะทำให้สีซีดจางเร็วกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรเลือกตากในสถานที่ที่มีลมถ่ายเทได้ดีและมีแสงแดดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยรักษาสีสันของลายพิมพ์ให้คงความสดใหม่ได้นานขึ้น
5. หลีกเลี่ยงการรีดโดยตรงหรือใช้ความร้อนแรงจัด
ในกรณีที่จำเป็นต้องรีดผ้า ให้ใช้เตารีดที่ตั้งไฟอ่อน และควรมีผ้าบางๆ รองไว้ด้านบน หรือใช้เตารีดไอน้ำแบบรีดห่างๆ เพราะเส้นใยสังเคราะห์สามารถละลายได้ง่ายหากได้รับความร้อนสูงโดยตรง
เคล็ดลับพิเศษสำหรับเสื้อที่มีลายพิมพ์บนผ้าใยสังเคราะห์
เสื้อผ้าที่ผลิตจากผ้าใยสังเคราะห์มักจะใช้เทคนิคการพิมพ์ลายแบบ Sublimation หรือ Heat Transfer ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่มีสีสันสดใส คมชัด และติดทนนานบนเนื้อผ้า แม้จะซักหลายครั้งก็ยังคงสีไว้ได้ดี อย่างไรก็ตาม ลายพิมพ์เหล่านี้อาจเสียหายได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
แม้ลายพิมพ์จะไม่หลุดลอกง่าย แต่หากเสื้อถูกถูแรงระหว่างการซัก หรือซักรวมกับเสื้อผ้าที่มีซิป ตะขอ หรือเนื้อผ้าหยาบ อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือถลอกบนผิวลายได้
เพื่อถนอมเสื้อให้อยู่ในสภาพดีและยืดอายุของลายพิมพ์ให้นานที่สุด แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้:
-
พลิกเสื้อกลับด้านก่อนซักทุกครั้ง: ช่วยลดการเสียดสีของลายพิมพ์กับผ้าอื่น
-
ใส่ถุงซักผ้า: เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสิ่งของแหลมคม เช่น ซิป กระดุม หรือขอบผ้าแข็งของเสื้อผ้าอื่น ๆ
-
ใช้โหมดซักแบบถนอมผ้า และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบผ้า เพราะความร้อนสูงอาจทำให้ลายพิมพ์เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
-
ตากในที่ร่มหรือในที่ที่มีลมโกรก ไม่ควรตากแดดจัดโดยตรง เพราะอาจทำให้สีของลายพิมพ์ซีดลงเร็ว
เพียงใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ เสื้อพิมพ์ลายของคุณก็จะดูสดใหม่เหมือนใหม่อยู่เสมอ
การดูแลเสื้อใยสังเคราะห์อย่างถูกวิธี คือการลงทุนระยะยาว
เสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ไม่เพียงแต่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ แต่ยังมีความทนทานและคงสภาพได้ดีอีกด้วย หากเราดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ด้วยการเลือกวิธีการซัก การตาก และการรีดที่เหมาะสม เราก็สามารถยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าให้ดูใหม่ได้นานขึ้น และยังคงรักษาความประทับใจของแบรนด์ในทุกครั้งที่มีการสวมใส่
เพราะผ้าที่มีคุณภาพดีนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงแค่กระบวนการผลิตเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาเส้นใยสังเคราะห์อย่างเข้าใจและถูกต้องด้วยเช่นกัน